ทฤษฎีของ Luther Gulick
1. หลักการและแนวคิดของ
POSDCoRB
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสหรัฐได้รวบรวมนักวิชาการเพื่อประเมินข้อผิดพลาดในการบริหารจัดการในกองทัพที่ผ่านมา
เพื่อใช้ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลูเธอร์ กูลิค และ ลินดัล เออร์วิกค์
ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิชาการที่ได้มารวมตัวกันครั้งนั้น ในปี ค.ศ. 1937 ลูเธอร์ กูลิค และ ลินดัล
เออร์วิหค์ เสนอแนวคิด ภาระหน้าที่ที่สำคัญของนักบริหาร POSDCoRB ในบทความ Paper on
the Science of Administration: Notes on the Theory of Organization”
POSDCoRB เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้บริหาร
2.
POSDCoRB คืออะไร POSDCoRB คือ หลักในการบริหารจัดการองค์กรที่ใช้กันทั้งในภาครัฐ
และ เอกชน ที่ผู้มีอำนาจบริหารมีหน้าที่ และ
บทบาทการบริหารอยู่ 7 ประการ คือ
1.
P = Planning การวางแผน
2.
O = Organizing การจัดการองค์กร
3.
S = Staffing การจัดการด้านบุคคลากร
4.
D = Directing การควบคุมสั่งการ
5.
Co = Coordinating การประสานงาน
6.
R = Report การรายงาน
7.
B = Budgeting การจัดการงบประมาณ
3.
POSDCoRB ใช้เพื่อ สร้างกลไก
และ โครงสร้างให้กับองค์กร จัดเตรียมบุคลากรที่มีความชำนาญต่างกันให้อยู่ในแผนกที่เหมาะสมกับองค์กร
บุคลากรรู้หน้าที่ และ ผู้บริหารสามารถบริหาร และ สั่งการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ วางกรอบการทำงานให้องค์กรเพื่อเป็นแนวทางในการบริหาร ส่งเสริมการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกันภายในองค์กร
4. ข้อดีข้อเสียของ POSDCoRB
ข้อดี
·
องค์กรมีโอการประสบผลสำเร็จบรรลุเป้าหมาย
มีสายบังคับบัญชาเดียว
·
สมาชิกองค์กรมีความเข้าใจวัตถุประสงค์องค์กร และ
แบ่งสายงานชัดเจน ไม่สับสน
·
ในหน่วยงานเดียวกัน มีความเข้มแข็ง
เพราะเลือกสายอาชีพเดียวกันมาร่วมกันทำงาน
·
ใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ถูกที่ถูกงาน
·
การประสานงานระหว่างหน่วยงานมีความสะดวก
·
จัดเตรียมงบประมาณสนับสนุนแต่ละส่วนได้อย่างเหมาะสม
ข้อเสีย
·
เมื่อมีสายงานบังคับบัญชาที่ชัดเจน
บางหน่วยงานอาจเลี่ยงปฎิบัติงานจนกว่าผู้บริการจะสั่งการลงมาโดยตรง
·
อุปกรณ์หรือเครื่องมือบางชนิดที่อยู่นอกเหนือหน่วยงานตนเอง
อาจต้องรอจนกว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบมาเป็นเมื่อการดำเนินงานให้
·
ทุกคนล้วนอยากอยู่ในหน่วยงานบริหารหลัก
ทำงานใกล้ชิดผู้บริหาร อาจเกิดความขัดแย้ง
5. หน้าที่และบทบาทการบริหาร 7 ประการ
วางแผน โดยผู้บริหาร หรือ ผู้มีอำนาจขององค์กร ในการวางแนวทางการดำเนินงา น
การจัดการองค์กร จัดหน่วยงานต่างๆในองค์กร ที่สามารถมารองรับแผนงาน เช่น แผนกการตลาด แผนกฝ่ายขาย แผนกบุคคล เป็นต้น
การจัดการด้านบุคลากร จัดสรรบุคลากรที่เหมาะกับงาน เช่น เลือกผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีมาเป็นผู้จัดการฝ่าย บัญชี
การจัดการด้านการควบคุมสั่งการ วางขั้นตอนการกำกับสั่งการแต่ละแผนก และ สายงานการบังคับบัญชาที่ชัดเจน
การประสานงาน จัดระบบการถ่ายทอดงานระหว่างหน่วยงานภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ
การรายงาน รวบรวมข้อมูลผลงานและรายงานต่อผู้บริหาร เช่น กำหนดในทุกๆไตรมาส เพื่อดูผลงาน และปรับปรุงพัฒนา
การจัดการงบประมาณ ดูแลและจัดสรรงบประมาณตามความสำคัญและสอดคล้องกับแผนงานที่วางเอาไว้
6. ใครนำไปใช้บ้าง
7.กรณีศึกษา
วัดโสธรวรมหาวิหาร
ใช้หลัก POSDCoRB
โดยนำไปปรับใช้กับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวัด
ในช่วงเปลี่ยนผ่านเจ้าอาวาสรูปใหม่เข้ามารับตำแหน่ง
ซึ่งมีความแตกต่างในแนวทางบริหาร และ วิสัยทัศน์
มีการนำหลัก POSDCoRB มาปรับใช้
ในการวางหลักการบริหารเพื่ออนาคต ดังนี้
1.
บุคลากรในวัด มีพระสงค์ ที่มีความแตกต่างในถิ่นที่มา
และ ระดับการศึกษา จึงทำการส่งเสริมบุคคลากรด้วยการส่งเสริมด้านการศึกษา ด้วยการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโสธรวราราม
ขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๘๘ จะเห็นได้ว่า มีการใช้หลัก ทฤษฏี ทางด้านการวางแผน (Planning) ด้านบุคลากร (Staffing) และด้านงบประมาณ (Budgeting)
2.
ในช่วงเปลี่ยนผ่านตำแหน่งเจ้าอาวาสมาเป็นรูปปัจจุบัน
มีความเห็นที่แตกต่างในองค์กร บ้างก็สนับสนุน บ้างก็ไม่เห็นด้วย
จึงทำให้อำนาจการสั่งการของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันยังไม่มีน้ำหนักเท่าที่ควร
จึงนำหลักการ ควบคุมสั่งการ (Directing) นำมาใช้ปรับปรุง
3.
เมื่อมีการไม่ปฏิบัติตามนโยบายของเจ้าอาวาสรูปใหม่
ก็มีบทลงโทษ เพื่อเป็นการควบคุมดูแลให้บุคลากรส่วนใหญ่มีความเข้าใจในหน้าที่ของแต่ละรูป
4.
มีแผนงานในการสนับสนุนให้วัดได้มีนโยบายในการจัดทำพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาพระธรมม
แบ่งงานหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละส่วน ทำให้มีการให้ความร่วมมือกันมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น